ตลกอาวุโสที่เรียกว่าเป็นดาราตลกอันดับต้น ๆ ของวงการบันเทิงไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นผลงานหยังตลกอะไร ก็จะมีชื่อ น้าค่อม อยู่ในรายชื่อนักแสดง โดยหนังแต่ละเรื่องนั้นมีแต่หนังฮา ๆ ทุกเรื่องจริง ๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นข่าวเศร้า ข่าวช็อกกันทั้งวงการบันเทิง และแฟนคลับที่ติดตามอาการป่วยโควิด – 19 ของน้า ค่อม ชวนชื่น เพราะเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ไอซ์ ณพัชรินทร์ ได้แจ้งข่าวว่าคุณพ่อได้เสียชีวิตแล้ว โดยได้เขียนใน IG และ Facebook ว่า “คุณพ่อหลับสบายแล้วนะคะ” เมื่อหลาย ๆ คนทราบข่าวต่างก็ส่งกำลังใจให้ และแสดงความเสียใจมายังครอบครัวน้า ค่อม กันอย่างถ้วนหน้า
ประวัติน้าค่อม ชวนชื่น
- นายอาคม ปรีดากุล หรือรู้จักในวงการ น้า ค่อม ชวนชื่น
- เกิดวันที่ 5 มากราคม 2501 ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- IG : na.kom_
- อดีตสมาชิกตลกคณะชวนชื่น วงการบันเทิงมักจะเรียกติดปากว่า น้าเหยิน
- ด้วยความที่ไม่รู้หนังสือเลย แต่น้าค่อมกลับเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษเรื่องการจำบทได้อย่างแม่นยำ ในระยะประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาน้าค่อมมีผลงานการแสดงไม่ต่ำกว่า 60 เรื่อง แถมในปี 2553 น้าค่อมมีผลงานภาพยนตร์สูงถึง 11 เรื่อง ซึ่งน้อยคนที่จะสามารถทำได้อย่างขนาดนี้
- ชีวิตส่วนตัว น้าค่อมแต่งงานกับ เอ๋ ประภาศรี ปรีดากุล มีลูกด้วยกัน 3 คน โดย เส้นทางชีวิตของค่อมนั้นได้ยึดอาชีพตลกมานานกว่า 20 ปีแล้ว ผ่านมาแล้วทั้งงานละคร และภาพยนตร์แบบนับไม่ถ้วน
- โดยผลงานแสดงชิ้นแรกได้เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2545 และมีผลงานออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งน้าค่อมเรียกว่าเป็นตลกอันดับต้นของวงการบันเทิงไทยเลยก็ว่าได้
- คำติดปากของเขา คือ I-SUS ไอ้สัส ที่ถึงแม้จะดูเป็นคำหยาบคาย แต่เมื่อออกมาจากปากน้าค่อมแล้วเรียกว่าเป็นคำที่ดูตลก และชื่นชอบของแฟน ๆ เป็นอย่างมาก
อัพเดทข่าวอาการป่วย ก่อนน้าค่อมเสียชีวิต
- 17 เมษายน น้า ค่อมต้องย้ายโรงพยาบาลด่วน ไปห้อง ICU กระทันหัน เนื่องจากปอดเป็นฝ้าหนา จนได้ เข้าโรงพยาบาล
- 18 เมษายน อาการยังคงเดิม ไม่มีเหนื่อยหอบอะไร แต่ผลเอ็กซ์เรย์ปอดยังคงมีการติดเชื้อที่ปอดอยู่ค่ะ ตอนนี้ให้ oxygen ในระดับสูง อาการไม่มีอะไรน่ากังวล
- 19 เมษายน โรงพยาบาล แจ้งว่า ผู้ป่วยตอนนี้ไม่มีไข้ ยังใช้ออกซิเจนช่วยในการหายใจ
- 22 เมษายน มีอาการ ไตวาย คุณหมอแจ้งว่าคนไข้อาการแย่ลง ปอดติดเชื้อ จำเป็นต้องให้ออกซิเจนเข้าไปในร่างกายด้วยการนอนคว่ำ และให้ออกซิเจนทางปาก คุณหมอไม่รับปากว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ไหม สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือประคองอาการไป คุณหมอบอกว่าทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้อาการ น้าค่อม ดีขึ้น คือเชื้อ โควิด ต้องหายไปจากปอด ตอนนี้ต้องฟอกไตวันละ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งแม่เอ๋ ภรรยาของน้า ค่อม ก็ติดเชื้อ โควิด เช่นกัน แต่ผลตรวจของลูก ๆ เป็นลบ แต่ก็ต้องกักตัว 14 วัน
- 26 เมษายน คุณหมอบอกว่า อาการยังทรงตัว ปอด และไตยัง มีค่าการอักเสบที่ยังเยอะมากอยู่ ต้องทำการฟอกไต กรองของเสียออกตลอด 24 ชั่วโมง ค่าความดัน และ ออกซิเจนในเลือดดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่น่าวางใจ วัดค่าเหลืองในตับ สูงขึ้นกว่าคนปกติมาก อยู่ในขั้นเฝ้าระวังเพิ่มเติม แต่ค่าตับยังปกติ
- 29 เมษายน ไอซ์ ณพัชรินทร์ ลูกสาว อัพเดทอาการแจ้งว่า ตอนนี้อาการของคุณพ่ออยู่ในภาวะโคม่า อวัยวะหลายอย่างล้มเหลว รวมถึงการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะชีพจรกับความดัน ร่างกายไม่ตอบสนองต่อยาที่ให้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ ทางทีมแพทย์ได้ทำการช่วยเหลือทุกทางแล้ว ซึ่งการฟอกเลือดในตอนนี้ก็อาจจะไม่ช่วย ร่างกายมีเกล็ดเลือดต่ำ ยากดภูมิอื่น ๆ ก็ให้ไม่ได้ เนื่องจากมีอาการติดเชื้อ อาจจะทำให้แย่กว่าเดิม และหากเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น การปั๊มหัวใจอาจจะเกิดการตอบสนองน้อย เนื่องจากอวัยวะหลายอย่างล้มเหลว
- 30 เมษายน ไอซ์ ณพัชรินทร์ ลูกสาวของ น้าค่อม ชวนชื่น อัพเดทอาการผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และแฟนเพจ ค่อม ชวนชื่น แจ้งว่า น้าค่อมได้เสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางแฟนแห่ไว้อาลัยอย่างมากมาย
5 ภาพยนตร์ในความทรงจำของ น้าค่อม ชวนชื่น
- กลิ่นสี และทีแปรง ปี 2539 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของดาวตลกคนดัง โดยน้าค่อม รับบทเป็น ใบ นักศึกษาที่มีอาชีพเสริม คือการไปปขับรถสามล้อ
- 7 ประจัญบาน ปี 2545 เป็นภาพยนตร์แจ้งเกิดกับบทบาทเป็น จุก เบี้ยวสกุล 1 ใน 7 ประจัญบานที่ต้องมารับภารกิจช่วยชาติ
- พยัคฆ์ร้าย ส่ายหน้า ปี 2548 ภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกเสียงฮาไม่ใช่น้อย กับบทบาท จ่าสุภาพ ที่แฝงตัวไปในโรงพยาบาลเพื่อค้นหาระเบิด ฉากสนุก ๆ ที่เราเคยเห็นผ่านตา คงเป็นฉากที่ต้องรับบทเป็นทันตแพทย์ เพื่อถอดฟันคนไข้
- แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ปี 2549 เรียกได้ว่านี่คือภาพยนตร์ของน้าค่อม ที่อยู่ในดวงใจของใครอีกหลาย ไ คน โดยรับบทบาทเป็น สิทธิ์ มาพร้อมประโยคฮิตในตำนานว่า ไอ้สองให้พี่เดินสะดวกเถอะ รวมถึงฉากสักยันต์ ช้างซ่อนงา
- ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ปี 2561 เป็นการรับบทบาท ลุงปรีชา โดยในครั้งนี้เรียกได้ว่าสร้างเสียงหัวเราะได้ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะฉากที่พูดถึงกันอยู่ทุกวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นฉากเจ้าของร้านยิงปืนในงานวัด ที่ตัวเองกลับโดนยิงแทบจะทุกนัดเลยทีเดียว